Sound Design / Mixing & Mastering
ความสำคัญของเสียงที่อยู่ในวิดีโอมักถูกมองข้ามอยู่บ่อย ๆ ทั้งที่มีส่วนสำคัญในการทำให้ภาพรวมของวิดีโอสมบูรณ์แบบ แม้ว่าวิดีโอส่วนใหญ่ผู้คนจะให้ความสนใจในเรื่องของภาพ แต่ถ้าปิดเสียงประกอบหรือนำเสียงออกไปทั้งหมดก็จะพบว่าแท้ที่จริงแล้วเสียงที่อยู่วิดีโอมีความสำคัญมากเพียงใดในการถ่ายทอดอารมณ์และเล่าเรื่องทั้งหมดที่อยู่ในวิดีโอ
การออกแบบเสียง การตัดต่อ และการทำดนตรีประกอบที่ดี สามารถทำให้วิดีโอออกมาดูดีได้ แม้ว่าหนังโฆษณา (TVC) จะทำออกมาได้ดีมาก แต่ถ้าเสียงประกอบทำออกมาได้แย่ก็สามารถทำให้หนังโฆษณาชิ้นนั้นพังได้เช่นกัน จึงต้องนำเทคนิคและการปรับแต่งเสียงมาใช้ เพื่อสื่อถึงอารมณ์ของฉากและทำให้คนดูมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อวิดีโอได้ตามที่ต้องการ เช่น การเลือกใส่เสียงประกอบแนวหนังระทึกขวัญหรือสยองขวัญเพื่อสร้างความรู้สึกคาดเดาให้กับคนดู
ทีม Sound Engineer มืออาชีพของ Bangkok Production สามารถปรับแต่งเสียงในแต่ละ Sequence ให้ดีขึ้นด้วยการเพิ่มและปรับแต่งองค์ประกอบเสียงต่าง ๆ จากคลังซาวด์เอฟเฟกต์และดนตรีประกอบขนาดใหญ่ที่มีอยู่ รวมถึงใส่เสียงผู้บรรยายเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวและข้อความต่าง ๆ เพิ่มดนตรีหรือเสียงตามแบบที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งทีม Sound Engineer ของเรามีประสบการณ์ในการออกแบบเสียงงานโปรดักชันที่หลากหลาย อาทิ
งานโปรดักชันที่เผยแพร่ทางโทรทัศน์ | วิดีโอที่เผยแพร่ทางเว็บไซต์ต่าง ๆ | วิดีโอฝึกอบรมภายในองค์กร |
คอนเทนต์ที่เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย | สารคดีต่าง ๆ | รายการทางวิทยุ |
ภาพยนตร์ | มิวสิกวิดีโอ | วิดีโอในรูปแบบ Tutorial ต่าง ๆ |
Audio PosT-Production Services:
Mixing & Mastering
การมิกซ์ (Mixing) และมาสเตอร์ (Mastering) เสียงของเราจะทำให้โปรเจกต์ของคุณเหนือกว่าการออกแบบเสียงธรรมดา ๆ ที่พบเห็นได้ทั่วไป เพราะเราสามารถมิกซ์เสียงได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นงานโปรดักชันในรูปแบบใด เพื่อให้มั่นใจว่าวิดีโอของคุณจะสร้างสรรค์ความรู้สึกได้ตรงกับกลุ่มตลาดเป้าหมายที่ต้องการ
Sound Design
ทีม Sound Engineer ของเราจะช่วยให้งานโปรดักชันในเชิงพาณิชย์ของคุณยกระดับสู่ความเป็นมืออาชีพอย่างที่ควรจะเป็น ในยุคที่ใคร ๆ ต่างก็ผลิตวิดีโอออนไลน์ออกมามากมาย ซึ่งการออกแบบเสียงที่ดีจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ของคุณโดดเด่นและแตกต่างจากคนอื่นได้
SFX
ไม่ว่าจะมิกซ์ซาวด์เอฟเฟกต์ให้กับงานโฆษณา, ภาพยนต์ที่เป็นไวรัล หรือคอนเทนต์ออนไลน์ ก็มั่นใจได้ว่าผลงานที่ออกมาจะมอบประสบการณ์อันล้ำค่าให้กับผู้ชมและคู่ควรกับการทุ่มเทการทำงานอย่างหนัก โดยทีมงานใช้ทั้งความคิดสร้างสรรค์ การใส่เสียงซาวด์เอฟเฟกต์ Foley ให้สมจริงในฉาก ตลอดจนการเข้าถึงคลังเสียงมาตรฐานที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งสามารถนำมาใช้ได้ในทุกงาน ไม่ว่าจะเป็นงานโปรดักชันออนไลน์ ไปจนถึงงานระดับภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด
Voice-OVER / RECORDING
กระบวนการตัดต่อหลังการถ่ายทำของ Bangkok Production มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้อย่างครบครัน ซึ่งรวมถึงสตูดิโอเสียงที่สามารถอัดเสียงได้ทั้งเสียงพากย์ไปจนถึงเสียงเครื่องดนตรี และเสียงซาวด์เอฟเฟกต์ Foley
นอกเหนือจากงานโปรดักชัน และสิ่งอำนวยความสะดวกในกระบวนการตัดต่อแล้ว ยังสามารถเช่าสถานที่ของเราได้ด้วยหากคุณกำลังมองหาสถานที่สำหรับตัดต่องานในประเทศไทย
Composition / Music
Bangkok Production ช่วยรังสรรค์ซาวด์แทร็กที่สมบูรณ์แบบให้กับวิดีโอของคุณได้ แม้ว่ายังไม่มีไอเดียใด ๆ เราก็สามารถสร้างสรรค์สิ่งที่ไม่เหมือนใครและสดใหม่ให้กับงานโปรดักชันของคุณได้ โดยสามารถใช้เพลงที่มีลิขสิทธิ์ หรือนำมาจากแคตาล็อกลิขสิทธิ์เพลงที่มีอยู่ เพื่อผลิตงานโปรดักชันตามที่คุณต้องการได้โดยไม่ติดเรื่องลิขสิทธิ์
ด้วยทีม Sound Engineer ที่มีความสามารถ จึงมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพของเสียงและการออกแบบเสียง รวมถึงทำให้เสียงเข้ากับธีมของวิดีโอ อารมณ์ และข้อความที่ต้องการสื่อสารได้อย่างลงตัว นอกเหนือจากวิดีโอที่ผลิตออกมาจะสอดคล้องกับอารมณ์ของวิดีโอแล้ว เรายังมีบริการด้านเสียงอื่น ๆ ด้วย ได้แก่
การพากย์เสียง | สเปเชียลเอฟเฟกต์ | ตัดต่อเสียง |
ปรับแต่งเสียง | บันทึกเสียง | มิกซ์เสียงด้วยระบบเสียงสเตอริโอรอบทิศทาง 5.1 |
การบันทึกเสียง (Sync Sound Recording) | ในสถานที่ถ่ายทำ (Dialogue Clean up) | ADR (Automated Dialogue Replacement) |
Mastering
วิดีโอที่ตัดต่ออย่างเป็นมืออาชีพไม่มีทางสมบูรณ์แบบได้จนกว่าดนตรีและเสียงจะผ่านการทำมาสเตอร์ (Mastering) ซึ่งเป็นการปรับแต่งเสียงในขั้นตอนสุดท้าย และถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญในกระบวนการตัดต่อ ไม่ว่าจะเป็นเสียงในรูปแบบใดเราสามารถมิกซ์และทำมาสเตอร์ให้เสียงดูเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้นได้ รวมถึงสามารถทำมาสเตอร์ให้ตรงกับข้อกำหนดต่าง ๆ ของสถานีโทรทัศน์, วิทยุ และช่องทางออนไลน์ได้
โดยแต่ละวิดีโอจะได้รับการมาสเตอร์จนได้เสียงที่คมชัด น่าสนใจ ฟังแล้วลื่นไหลไปกับเนื้อหาที่ต้องการนำเสนอ รวมถึงสอดคล้องกับข้อกำหนดต่าง ๆ ซึ่งขั้นตอนในการทำมาสเตอร์ยังรวมถึงสิ่งเหล่านี้ด้วย
การปรับแต่งระดับเสียง (Volume Adjustment) | ความเสถียรของระดับเสียง (Volume Stabilization) | ลดเสียงรบกวนจากบรรยากาศ (Background Noise Reduction) |
ปรับแก้ความบพร่องของเสียง | ความชัดเจนของเสียง | การปรับแต่งแทร็กเสียง |
การปรับระดับความกว้างของเสียงสเตอริโอ | การใส่เสียงบรรยากาศ | ตั้งลิมิตระดับเสียงสูงสุด |