วีดีโอกับโลกอินเทอร์เน็ต แค่ “เน็ตฟลิกซ์” ก็สูบทราฟิกไปแล้วถึง 15%
“เน็ตฟลิกซ์” สูบทราฟิกไปแล้วถึง 15%
ดูเหมือนว่าเราได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งออนไลน์สตรีมมิ่งอย่างเต็มรูปแบบแล้ว เพราะในปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะอยากดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม ทุกๆ สื่อก็ล้วนแต่มีบริการสตรีมมิ่งมารองรับกันหมดแล้ว ซึ่งถ้าถามว่าสื่อประเภทไหนที่ดูแล้วท่าจะครองตำแหน่งเจ้าตลาด คำตอบอาจยังไม่ชัดเจนนัก แต่ตัวเลขสถิติบางอย่างของ Netflix ที่ถูกเผยแพร่ออกมา ก็นับได้ว่าเป็นข้อมูลที่น่าสนใจเป็นอันมาก
ข้อมูลจากรายงานฉบับล่าสุด Global Internet Phenomena Report โดย Sandvine บริษัทผู้ให้บริการโซลูชั่นเครือข่ายบรอดแบนด์ และผู้ผลิตระบบวิเคราะห์ทราฟิกเน็ตเวิร์ค รายงานว่า ณ ตอนนี้ “เน็ตฟลิกซ์” คือแพลตฟอร์มผู้ให้บริการที่สูบทราฟิกบนอินเทอร์เน็ตของทั่วทั้งโลกไปได้ถึง 15% ซึ่งก็เป็นเพราะฐานผู้ใช้งานจำนวนมากที่นิยมหันมาดูหนัง ดูซีรีส์ กันในเน็ตฟลิกซ์เป็นจำนวนมาก มากขนาดที่กินพื้นที่ถึงเกือบ 58% จากปริมาณการดาวน์โหลดทั้งหมดบนอินเทอร์เน็ตเลยทีเดียว แถมช่วงเวลาพีคๆ ในอเมริกา ก็กินเนื้อที่บนอินเทอร์เน็ตไปแล้วถึง 40% ด้วยกัน
นอกจากนี้ ในรายงานยังระบุด้วยว่า ไม่เคยมีบริการไหนในโลกที่ใช้แบนด์วิธปริมาณมหาศาลขนาดนี้มาก่อน ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะขนาดของไฟล์วีดีโอทั้งหลาย จึงทำให้การดาวน์โหลดแต่ละครั้งต้องใช้แบนด์วิธที่สูงมาก และนั่นก็อาจกลายเป็นผลลัพธ์ที่ออกจะดูเพี้ยนๆ หน่อย ก็คือ ถ้าหากว่าเน็ตฟลิกซ์ ยังไม่ปรับปรุงประสิทธิภาพเรื่องการจัดการคอนเทนต์ อย่างการบีบอัดวีดีโอให้มันดีๆ แล้วล่ะก็ เน็ตฟลิกซ์ก็จะยังครองตำแหน่งเจ้าแห่งการใช้แบนด์วิธต่อไปอีก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเทคโนโลยี 4K กำลังก้าวเข้ามา ซึ่งก็แน่นอนว่า ฝั่งของผู้บริโภคเอง จะดูหนังทั้งที ก็ต้องอยากดูอะไรที่มันคมชัด ถึงใจ ถึงอารมณ์ กันชัวร์อยู่แล้ว เพราะฉะนั้น การดูวีดีโอแต่ละทีก็จะยิ่งเป็นการใช้แบนด์วิธหนักเข้าไปอีกจากเดิม และในอนาคตก็อาจพุ่งสูงขึ้นได้ถึง 3 เท่า !!
ถัดจากเน็ตฟลิกซ์ ลงมาที่อันดับ 2 และ 3 แห่งวงการวีดีโอคอนเทนต์ นั้นตกเป็นของ “บริการวิดีโอในกลุ่ม HTTP Media Streams” ซึ่งกินเนื้อที่บนอินเตอร์เน็ตที่ 13.1% และ “ยูทูป” อยู่ที่ 11.4% ส่วนคอนเทนต์ประเภทอื่นๆ ที่น่าสนใจ และอาจเรียกได้ว่ากำลังอยู่ในช่วงระหว่างพัฒนา นั่นก็คือ การใช้อินเทอร์เน็ตในการเล่นเกม ซึ่งกินเนื้อที่ไป 7.8% ซึ่งก็นับว่าเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ส่วนการใช้ไปกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียนั้นอยู่ที่ 5.1% และการใช้งานเว็บไซต์ทั่วไปอีก 17%